ภาครัฐบาล-เอกชนภูเก็ตจับมือ จัดงานมหกรรมกินผัก นักท่องเที่ยวจากเอเชียและยุโรปแห่จองโรงแรมเต็ม สินค้าประเภทผักขึ้นราคาพรวด7-15 บาท/กก. คาดผู้ร่วมงานกว่า 3 แสนคนมั่นใจ เงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า ประเพณีถือศีลกินผักเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนทั่วไปตลอด ถึงชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ปีนี้ทางจังหวัดภูเก็ตร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ตได้รับความร่วมมือจากศาล (อ๊าม) และชมรมอ๊ามภูเก็ตให้ดำเนินการจัดประเพณีถือศีลกินผักขึ้นในระหว่างวันที่ 11 " 19 ตุลาคม 2550 และขณะนี้ทุกศาลเจ้าได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดหลายร้อยล้านบาท
ปีนี้ประเพณีถือศีลกินผักในจังหวัดภูเก็ต ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติอย่างมาก เช่น จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย และชาวยุโรป ได้มีโปรแกรมจองห้องพักต่างๆในจังหวัดภูเก็ตจนเต็มไปหมด ที่เป็นน่าสังเกตอีกอย่างหนึ่ง คือ เที่ยวบินต่างๆ ที่จะมาลงจังหวัดภูเก็ตในช่วงระยะวันเวลาถือศีลกินผักถูกสั่งจองเต็มไปหมดเช่นกัน
ด้านนางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต 4 กล่าวว่า ช่วงเทศกาลถือศีลกินผักทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเชื้อสายจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมในเทศกาลดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนที่เดินทางเข้ามาในช่วงดังกล่าวเชื้อว่าเมื่อมากินผักที่ภูเก็ตไปแล้ว ครอบครัวและธุรกิจเจริญเติบโต จึงเดินมาร่วมในเทศกาลดังกล่าวทุก ๆ ปี
อย่างไรก็ตามในเทศกาลกินผักของปีนี้จากการสอบถามโรงแรมต่าง ๆ ที่เป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเชื้อสายจีนที่นิยมเดินทางมาพักในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักของภูเก็ตทุก ๆ ปี ปรากฏว่าในปีนี้อัตราเข้าพักอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีการจองห้องพักแล้วประมาณ 80 " 90% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนที่เดินทางมาร่วมเทศกาลถือศีลกินผักที่ภูเก็ตทุกปี โดยเฉพาะชาวสิงค์โปร์ ฮ่องกง ที่เดินทางเข้ามามากในช่วงนี้
ในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักในปีนี้ น่าที่จะมีเงินสะพัดจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งที่เดินทางมาร่วมเทศกาลถือศีลกินผัก โดยเฉพาะและเดินทางมาพักผ่อนตามปกติของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย เอเซียและยุโรปไม่น่าจะน้อยกว่า 500 " 600 ล้านบาท
นายชวนะ เกียรติชวนะเสวี รองประธานหอการค้า จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวส่งผลต่อจิตวิทยา และการผันผวนของราคาน้ำมัน ยังเป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของไทยยังมีผลต่อการบริโภคของประชาชน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทุกระดับ โดยพบว่าในอนาคตอันใกล้อาจจะมีการปรับขึ้นของราคาสินค้าบางประเภท ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่งผลให้ด้านการขนส่งก็ยังคงได้รับแรงฉุดจากดัชนีราคาน้ำมันด้วย จึงเชื่อว่าราคาสินค้าในช่วงเทศกาลกินผักปีนี้น่าจะปรับตัวสูงโดยเฉพาะราคาผัก และผลไม้มีการปรับราคาขายหน้าร้านขึ้นกว่ากิโลกรัมละ 7 บาท " 15 บาท เลยทีเดียวอันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง และภาวะจากน้ำท่วมทำให้ผักและผลไม้ได้รับความเสียหาย มีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่มากหนักไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค บวกกับเป็นช่วงเทศกาลด้วยจึงมีการปรับราคาขายหน้าร้านสูงขึ้นไปด้วย
คาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเดินทางมาเข้าร่วมงานมากกว่าทุกปี และมีเงินสะพัดเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว เกือบ 1 เท่าตัว ซึ่งในปีนี้จะมีเงินสะพัดในช่วงเทศกาลกินผักกว่า 500 " 600 ล้านบาท ในส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล จะเป็นในส่วนของนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเซียเป็นหลัก และจะมีเข้ามามากกว่า 250,000 " 300,000 คน
เทศกาลกินผักในปีนี้จะมีเงินสะพัดสูงกว่าปีที่แล้ว และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาร่วมงานมากกว่าทุกปี จึงอยากจะเชิญชวนชาวภูเก็ต ให้ความสำคัญต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยว และความเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวภูเก็ต ทั้งให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัย ซึ่งจะมีผลช่วยในการตัดสินใจเดินทางเข้ามาร่วมงานของนักท่องเที่ยวสูงขึ้นไปด้วย เพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และเชื่อว่าจังหวัดภูเก็ตมีการเตรียมความพร้อมและมีศักยภาพในการรองรับเทศกาลขนาดใหญ่ นายชวนะ กล่าวปิดท้าย
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น