วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หอการค้าภูเก็ตต้านค้าปลีกข้ามชาติ พร้อมผลักดันจ่ายภาษีคืนท้องถิ่น


หอการค้าภูเก็ตเพิ่งตื่นต้านค้าปลีกข้ามชาติ ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่เข้ามาเปิดที่ภูเก็ตหลังจากมีเต็มทุกมุมเมือง บุกยื่นหนังสือเรียกร้องผู้ว่าฯไม่ให้อนุญาตขยายสาขาเพิ่มจนกว่า พ.ร.บ.ค้าปลีกจะคลอด พร้อมเรียกร้องให้จ่ายภาษีทุกชนิดให้ท้องถิ่นทุกประเภท เพื่อร่วมกันพัฒนาภูเก็ตอย่างยั่งยืน เผยมีเพียงห้างเดียวเท่านั้นที่จ่ายภาษีให้ท้องถิ่นที่เหลือจ่ายรวมที่กรงุเทพฯทั้งหมด
วันนี้ (4 พ.ค.) นายเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายชวนะ เกียรติชวนะเสวี ประธานคณะกรรมการค้าปลีก หอการค้าจังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร เพื่อให้แก้ไขปัญหาค้าปลีกรายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต โดยหอการค้าจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอการแก้ไขปัญหาค้าปลีกในจังหวัดภูเก็ต 4 ประเด็นด้วยกันประกอบด้วย

1.ขอความร่วมมือจากห้างใหญ่ๆ ในจังหวัดภูเก็ตจ่ายภาษีทุกประเภทให้กับท้องถิ่นรวมทั้งสาขาย่อยที่เป็นร้านค้าประเภทสะดวกซื้อ เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตต้องรับภาระปัญหาเกี่ยวกับขยะที่มีมากจนเกินไป ปัญหาน้ำเสีย และอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อนำภาษีในส่วนนี้มาเป็นงบประมาณนำมาพัฒนาและขจัดผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น,

2.ให้ชะลอการขยายสาขาของห้างใหญ่และสาขาย่อยของห้างใหญ่ ทั้งนี้เพื่อรอ พ.ร.บ.ค้าปลีกให้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน

3.ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือร้านค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่น เช่น ให้กู้เงินด้วยอัตราพิเศษเพื่อนำไปพัฒนาร้านค้าในดูดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในปัจจุบันร้านค้าปลีกรายย่อยได้ปิดตัวเองไปเป็นจำนวนมาก หากรัฐบาลให้การช่วยเหลือก็จะทำให้ร้านค้ารายย่อยเล็กๆ สามารถยังคงอยู่ได้ต่อไปในสังคม

และ 4.ขอให้รัฐบาลช่วยเพิ่มศักยภาพร้านค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่น ให้สามารถพัฒนาตนเองได้ดีเสมอกับร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป
นายชวนะ เกียรติชวนะเสวี รองประธานหอการค้า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานในการเข้าประชุมรับทราบปัญหาและแนวทางแก้ไขธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ-โซห่วย ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งหลังจากได้ติดตามปัญหาและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโซห่วยทำให้ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ว่าธุรกิจเล็กหรือร้านโซห่วยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จากการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า ซึ่งเรื่องนี้ได้นำเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหาแนวทางรับมือ ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปที่ชัดเจน คือเรียกร้องให้ธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติและห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่จ.ภูเก็ต เสียภาษีให้กับท้องถิ่น เนื่องจากห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ได้มาใช่ทรัพยากรในจังหวัดภูเก็ต จึงควรแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการร่วมรับผิดชอบต่อท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นขยะฟุ่มเฟือย เช่นถุงพลาสติกที่ไม่สามารถเผาทำลายได้ ซึ่งผลกระทบต่อกำลังเผาทำลายของเตาเผาขยะที่มีเพียงเตาเผาเดียวไม่สามารถรับขยะที่มีมากกว่า 300 ตัน/วันได้ และกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ จึงอยากเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้าที่เข้ามาเปิดให้บริการในพื้นที่แสดงจุดยืนและเสียภาษีให้กับท้องถิ่นและจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำภาษีในส่วนนี้เป็นงบประมารณมาพัฒนาและขจัดผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้น
นายชวนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอีกประเด็นอยากขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าปลีกข้ามชาติ ควรยุติการขยายสาขาออกไปก่อนเพื่อรอการประกาศใช่ พ.ร.บ.ค้าปลีกที่จะมีผลบังคับใช่ในระยะอันใกล้ และเรียกร้องให้รัฐบาลและภาครัฐสนับสนุนธุรกิจโซห่วยให้สามารถพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันการตลาดกับห้างขนาดใหญ่ได้ รวมถึงจัดหาแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจโซห่วยและร้านค้าขนาดเล็กในชุมชน เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาธุรกิจการค้า เพิ่มศักยภาพในจุดขายให้ธุรกิจโซหวยด้วย นายชวนะ กล่าว

ที่มา : นสพ.เสียงใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น